นิทานเรื่องที่ ๘ เสี้ยวหนึ่งนิทานเซ็น (น่าอ่านครับ)
.
นิทานที่ทำให้เราเข้าใจ “วัฏจักรธรรมชาติ” อันเป็นวงจรทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน อย่างเช่นนิทานเรื่องต่อไปนี้ครับ
.
มีเศรษฐีคนหนึ่งจัดงานเลี้ยงวันเกิดใหญ่โตให้ตัวเอง มีผู้คนมาร่วมมากมาย เศรษฐีได้เชิญอาจารย์เซ็นท่านหนึ่งมาร่วมงานด้วย เมื่องานเลี้ยงผ่านไป มีผู้คนมากมายเขียนคำอวยพรให้เศรษฐีนั้นร่ำรวยไม่สิ้น พลานามัยแข็งแรง มีความสุข ประสบความสำเร็จ ลูกหลานได้ดิบได้ดี มียศฐาบรรดาศักดิ์ เป็นร่มโพธิ์ไทรแก่ทุกคน อายุมั่นขวัญยืน อายุยืนนาน ฯลฯ
.
แต่อาจารย์เซ็นก็ไม่ได้เดินไปเขียนคำอวยพรใดๆ
เศรษฐีและชาวบ้านที่มางานเลี้ยง ก็เชิญอาจารย์เซ็นขึ้นเขียนคำอวยพรบ้าง
เศรษฐีส่งพู่กันอันใหญ่ให้อาจารย์เซ็น และเชิญไปที่กำแพงเพื่อเขียนคำอวยพร
.
อาจารย์เซน ลุกขึ้น เดินไปที่กำแพง และค่อยๆจรดพูกันเขียน
อาจารย์เซ็นเขียนคำอวยพรเพียง ๕ ประโยค
คำอวยพร ๕ ประโยคนั้น ทำให้ทุกคนนิ่งเงียบกันหมด
สักพัก ก็มีเสียงอื้ออึง ต่อว่า ด่าทอขึ้น จากเสียงพรึมพรำ กลายเป็นเสียงตะโกนด่าคำอวยพรของอาจารย์เซ็นนั้น
.
เพราะ ๓ ประโยคสั้นๆที่อาจารย์เซ็นเขียนก็คือ
.
.... ขอให้ ปู่-ย่า ตาย
.... แล้ว พ่อ-แม่ ก็ตาย
.... แล้ว ลูก ก็ตาย
.... แล้ว หลาน ก็ตาย
.... ตายกันหมดทุกคน ทั้งปู่-ย่า ทั้งพ่อ-แม่ ทั้งลูก และหลาน
.
อาจารย์เซ็นยืนสงบฟังเสียงอยู่ ไม่ได้โต้ตอบอะไร จนกระทั่งตัวเศรษฐีทนไม่ไหว จึงเดินมาถามอาจารย์เซ็นว่า
.
“เหตุไฉนท่านจึงเขียนแช่งให้คนตาย ในวันมงคลของเรา”
.
อาจารย์เซ็นตอบว่า “เพราะเป็นคำอวยพรที่ดีที่สุด”
.
เศรษฐีถามว่า “ดีที่สุดอย่างไร เป็นการแช่งกันชัดๆ"
.
อาจารย์เซ็นอธิบายว่า......
“วัฏจักรของการ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย เป็นสิ่งธรรมดาที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่ถ้าครอบครัวใดโชคดี การตายก็มาตามเวลาที่สมควร ผู้เกิดก่อน ผู้แก่กว่า ตายก่อน ถือว่าเป็นโชคของเขา ปู่-ย่า ย่อมแก่กว่า พ่อ-แม่ ดังนั้น ปู่-ย่า ต้องตายก่อนพ่อ-แม่ เป็นธรรมดา และ พ่อ-แม่ เกิดก่อนลูก พ่อ-แม่ จึงน่าจะตายก่อนลูก และหลานซึ่งเด็กกว่าลูก ก็น่าจะตายหลังจากลูกตายไปแล้ว”
.
อาจารย์เซ็นพูดต่อไปว่า....
“หากทุกอย่างเป็นดังนี้ ทุกคนก็มี “ทุกข์น้อยลง” เพราะเป็นไปตามสิ่งที่น่าจะเป็น ถ้าพ่อ-แม่ ตายก่อน ปู่-ย่า มันเป็นความเศร้าของ ปู-ย่า ที่ต้องมาทำศพลูกหลานของตนเอง เป็นต้น”
.
อาจารย์เซ็นกล่าวสรุปว่า....
“เมื่อเรายอมรับความจริงของธรรมชาติ เราก็จะปล่อยวางสิ่งหลอกลวงได้มากขึ้น เมื่อเราปล่อยวางสิ่งที่ไม่จริงไปแล้ว เราก็จะมี “พลัง” มากขึ้น เพราะพลังที่มากขึ้นนั้นมาจากการ “ไม่มีกังวล” ...
.
เมื่อกังวลน้อยลง พลังมากขึ้น
เราก็สามารถที่จะทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จตามประสงค์ได้”
.
จบนิทานความจริงเพียงเท่านี้ครับ....
.
วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
นิทานเรื่องที่ ๘ เสี้ยวหนึ่งนิทานเซ็น (น่าอ่านครับ) . นิทานที่ทำให้เราเข้าใจ “วัฏจักรธรรมชาติ” อันเป็นวงจรทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน อย่างเช่นนิทานเรื่องต่อไปนี้ครับ . มีเศรษฐีคนหนึ่งจัดงานเลี้ยงวันเกิดใหญ่โตให้ตัวเอง มีผู้คนมาร่วมมากมาย เศรษฐีได้เชิญอาจารย์เซ็นท่านหนึ่งมาร่วมงานด้วย เมื่องานเลี้ยงผ่านไป มีผู้คนมากมายเขียนคำอวยพรให้เศรษฐีนั้นร่ำรวยไม่สิ้น พลานามัยแข็งแรง มีความสุข ประสบความสำเร็จ ลูกหลานได้ดิบได้ดี มียศฐาบรรดาศักดิ์ เป็นร่มโพธิ์ไทรแก่ทุกคน อายุมั่นขวัญยืน อายุยืนนาน ฯลฯ . แต่อาจารย์เซ็นก็ไม่ได้เดินไปเขียนคำอวยพรใดๆ เศรษฐีและชาวบ้านที่มางานเลี้ยง ก็เชิญอาจารย์เซ็นขึ้นเขียนคำอวยพรบ้าง เศรษฐีส่งพู่กันอันใหญ่ให้อาจารย์เซ็น และเชิญไปที่กำแพงเพื่อเขียนคำอวยพร . อาจารย์เซน ลุกขึ้น เดินไปที่กำแพง และค่อยๆจรดพูกันเขียน อาจารย์เซ็นเขียนคำอวยพรเพียง ๕ ประโยค คำอวยพร ๕ ประโยคนั้น ทำให้ทุกคนนิ่งเงียบกันหมด สักพัก ก็มีเสียงอื้ออึง ต่อว่า ด่าทอขึ้น จากเสียงพรึมพรำ กลายเป็นเสียงตะโกนด่าคำอวยพรของอาจารย์เซ็นนั้น . เพราะ ๓ ประโยคสั้นๆที่อาจารย์เซ็นเขียนก็คือ . .... ขอให้ ปู่-ย่า ตาย .... แล้ว พ่อ-แม่ ก็ตาย .... แล้ว ลูก ก็ตาย .... แล้ว หลาน ก็ตาย .... ตายกันหมดทุกคน ทั้งปู่-ย่า ทั้งพ่อ-แม่ ทั้งลูก และหลาน . อาจารย์เซ็นยืนสงบฟังเสียงอยู่ ไม่ได้โต้ตอบอะไร จนกระทั่งตัวเศรษฐีทนไม่ไหว จึงเดินมาถามอาจารย์เซ็นว่า . “เหตุไฉนท่านจึงเขียนแช่งให้คนตาย ในวันมงคลของเรา” . อาจารย์เซ็นตอบว่า “เพราะเป็นคำอวยพรที่ดีที่สุด” . เศรษฐีถามว่า “ดีที่สุดอย่างไร เป็นการแช่งกันชัดๆ" . อาจารย์เซ็นอธิบายว่า...... “วัฏจักรของการ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย เป็นสิ่งธรรมดาที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่ถ้าครอบครัวใดโชคดี การตายก็มาตามเวลาที่สมควร ผู้เกิดก่อน ผู้แก่กว่า ตายก่อน ถือว่าเป็นโชคของเขา ปู่-ย่า ย่อมแก่กว่า พ่อ-แม่ ดังนั้น ปู่-ย่า ต้องตายก่อนพ่อ-แม่ เป็นธรรมดา และ พ่อ-แม่ เกิดก่อนลูก พ่อ-แม่ จึงน่าจะตายก่อนลูก และหลานซึ่งเด็กกว่าลูก ก็น่าจะตายหลังจากลูกตายไปแล้ว” . อาจารย์เซ็นพูดต่อไปว่า.... “หากทุกอย่างเป็นดังนี้ ทุกคนก็มี “ทุกข์น้อยลง” เพราะเป็นไปตามสิ่งที่น่าจะเป็น ถ้าพ่อ-แม่ ตายก่อน ปู่-ย่า มันเป็นความเศร้าของ ปู-ย่า ที่ต้องมาทำศพลูกหลานของตนเอง เป็นต้น” . อาจารย์เซ็นกล่าวสรุปว่า.... “เมื่อเรายอมรับความจริงของธรรมชาติ เราก็จะปล่อยวางสิ่งหลอกลวงได้มากขึ้น เมื่อเราปล่อยวางสิ่งที่ไม่จริงไปแล้ว เราก็จะมี “พลัง” มากขึ้น เพราะพลังที่มากขึ้นนั้นมาจากการ “ไม่มีกังวล” ... . เมื่อกังวลน้อยลง พลังมากขึ้น เราก็สามารถที่จะทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จตามประสงค์ได้” . จบนิทานความจริงเพียงเท่านี้ครับ.... .
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น