วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หลักการของระหัดวิดน้ำ อาจารย์เซนอู๋เชียง เดินทางจาริกธรรมไปทั่วสารทิศ วันหนึ่งระหว่างการเดินทางเกิดกระหายน้ำขึ้นมา จึงได้มองหาแหล่งน้ำ เมื่อพบเข้า ก็ปรากฏว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่ง กำลังทำหน้าที่ ควบคุมระหัดวิดน้ำ อยู่ในบริเวณนั้น อาจารย์เซนอู๋เชียง จึงเอ่ยปากขอน้ำดื่ม ชายหนุ่มผู้นั้น เมื่อพบเห็นอาจารย์เซน ก็ใช้สายตามอง พร้อมทั้งเอยปากว่า "อาจารย์เซน หากวันหนึ่งข้าละทางโลกก็จะออกบวชเช่นกัน แต่เมื่อถึงวันนั้น ข้าจะเสาะหาที่เร้นกาย ตั้งใจนั่งสมาธิศึกษาธรรม ไม่มีทางออกเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อย เหมือนท่านในตอนนี้" อาจารย์เซน จึงถามชายหนุ่มผู้นั้นกลับไปว่า "แล้วเมื่อใดกันเล่าที่เจ้าจะละทางโลกได้" ชายหนุ่มตอบว่า "นับคนรุ่นเดียวกัน มีเพียงข้าที่ทราบหลักการทำงานของระหัดวิดน้ำได้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการจ่ายน้ำคนเดียวของหมู่บ้าน หากวันใดวันหนึ่งปรากฎผู้มารับช่วงต่อหน้าที่นี้แทนข้า ถึงตอนนี้ข้าก็จะหมดภาระและสามารถออกบวชได้" อาจารย์เซน ยังคงถามต่อไปว่า "เจ้าบอกว่าเจ้าแม่นในหลักการของระหัดวิดน้ำที่สุด อย่างนั้นเราถามเจ้า หากระหัดวิดน้ำจมลงไปในน้ำทั้งหมดหรือไม่ก็ไม่กระทบถูกน้ำเลยแม้แต่ส่วนเดียว จะเกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มตอบโดยไม่ต้องคิดว่า การทำงานของระหัดวิดน้ำย่อมต้องให้ครึ่งหนึ่งอยู่ในน้ำ ครึ่งหนึ่งอยู่เหนือน้ำ หากจมลงไปในน้ำทั้งหมดนอกจากจะไม่สามารถหมุนได้แล้วยังจะหักพังไหลไปตามน้ำ ในทางกลับกัน หากระหัดวิดน้ำไม่มีส่วนใดจมในน้ำเลย ก็ไม่สามารถวิดน้ำขึ้นมาได้" เมื่อชายหนุ่มกล่าวจบ อาจารย์เซนจึงบอกว่า "ความสัมพันธ์ของระหัดกับสายน้ำ ก็เหมือนความสัมพันธ์ของมนุษย์กับโลก หากคนผู้หนึ่งคุกคลีจมจ่อมอยู่ในโลกิยะ อย่างเต็มตัวย่อมถูกเกลียวคลื่นแห่งโลกีย์ พัดพาไปอย่างง่ายดาย แต่ในทางกลับกันชีวิตที่ขาวสะอาดปราศจากการข้องแวะกับเรื่องราวความเป็นไปทางโลกก็คล้ายดังไร้ราก เพราะเมื่อไม่รู้จักไม่เข้าใจว่าทางโลกเป็นอย่างไรก็ยากที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์หรือกิเลสตัณหาได้"

หลักการของระหัดวิดน้ำ

อาจารย์เซนอู๋เชียง เดินทางจาริกธรรมไปทั่วสารทิศ วันหนึ่งระหว่างการเดินทางเกิดกระหายน้ำขึ้นมา จึงได้มองหาแหล่งน้ำ เมื่อพบเข้า ก็ปรากฏว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่ง กำลังทำหน้าที่ ควบคุมระหัดวิดน้ำ อยู่ในบริเวณนั้น อาจารย์เซนอู๋เชียง จึงเอ่ยปากขอน้ำดื่ม

ชายหนุ่มผู้นั้น เมื่อพบเห็นอาจารย์เซน ก็ใช้สายตามอง พร้อมทั้งเอยปากว่า "อาจารย์เซน หากวันหนึ่งข้าละทางโลกก็จะออกบวชเช่นกัน แต่เมื่อถึงวันนั้น ข้าจะเสาะหาที่เร้นกาย ตั้งใจนั่งสมาธิศึกษาธรรม ไม่มีทางออกเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อย เหมือนท่านในตอนนี้"

อาจารย์เซน จึงถามชายหนุ่มผู้นั้นกลับไปว่า
"แล้วเมื่อใดกันเล่าที่เจ้าจะละทางโลกได้"
ชายหนุ่มตอบว่า "นับคนรุ่นเดียวกัน มีเพียงข้าที่ทราบหลักการทำงานของระหัดวิดน้ำได้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการจ่ายน้ำคนเดียวของหมู่บ้าน หากวันใดวันหนึ่งปรากฎผู้มารับช่วงต่อหน้าที่นี้แทนข้า ถึงตอนนี้ข้าก็จะหมดภาระและสามารถออกบวชได้"

อาจารย์เซน ยังคงถามต่อไปว่า "เจ้าบอกว่าเจ้าแม่นในหลักการของระหัดวิดน้ำที่สุด อย่างนั้นเราถามเจ้า หากระหัดวิดน้ำจมลงไปในน้ำทั้งหมดหรือไม่ก็ไม่กระทบถูกน้ำเลยแม้แต่ส่วนเดียว จะเกิดอะไรขึ้น?"
ชายหนุ่มตอบโดยไม่ต้องคิดว่า การทำงานของระหัดวิดน้ำย่อมต้องให้ครึ่งหนึ่งอยู่ในน้ำ ครึ่งหนึ่งอยู่เหนือน้ำ หากจมลงไปในน้ำทั้งหมดนอกจากจะไม่สามารถหมุนได้แล้วยังจะหักพังไหลไปตามน้ำ ในทางกลับกัน หากระหัดวิดน้ำไม่มีส่วนใดจมในน้ำเลย ก็ไม่สามารถวิดน้ำขึ้นมาได้"

เมื่อชายหนุ่มกล่าวจบ อาจารย์เซนจึงบอกว่า "ความสัมพันธ์ของระหัดกับสายน้ำ ก็เหมือนความสัมพันธ์ของมนุษย์กับโลก หากคนผู้หนึ่งคุกคลีจมจ่อมอยู่ในโลกิยะ อย่างเต็มตัวย่อมถูกเกลียวคลื่นแห่งโลกีย์ พัดพาไปอย่างง่ายดาย แต่ในทางกลับกันชีวิตที่ขาวสะอาดปราศจากการข้องแวะกับเรื่องราวความเป็นไปทางโลกก็คล้ายดังไร้ราก เพราะเมื่อไม่รู้จักไม่เข้าใจว่าทางโลกเป็นอย่างไรก็ยากที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์หรือกิเลสตัณหาได้"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น