วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชายสองคนบนเกาะ เทวดา และร่างกายที่เท่ากันแต่ มีฆ้อนวิเศษตกลงมาจากฟ้าเมื่อใครถือจะมีอำนาจกว่าคนอื่น(ปืน)

ใช้ล่าอาณานิคมเป็นต้น

ชายสองคนบนเกาะ เทวดา และเมื่อสลับร่างกายที่กำยำ นั้นคืนให้สองคนอีกครั้ง

ชายสองคนบนเกาะ เทวดา และร่างกายที่กำยำ ๑

มีชายสองคน..พลัดมาอยู่เกาะเดียวกันจากทะเล เทวดาจึงเฝ้ามองพฤติกรรมของทั้งสองคนนี้ว่าจะเป็นเช่นไร...
ชายคนแรกมีรูปร่างกำยำ ชายคนที่สองมีรูปร่างผอมโซ แรกๆที่อยู่ด้วยกัน ก็จะช่วยกันเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่ว่าจะเป็น จับปลาหรือหาอาหารป่ามากินและแบ่งปันกัน...
...พอนานวันเข้า ชายกำยำ จึงตบไปที่หัวของชายผอม อย่างไม่ตั้งใจ ส่งผลให้ชายผอมนั้นร้องออกมาเสียงดัง ชายที่กำยำนั้น จึงรู้สึกมีความสะใจและรู้สึกเหมือนตนมีพลังกว่าชายผอม จึงตบหัวชายผอมทุกเช้า กลางวันและเย็น ชายผอมก็ร้องทุกคราวที่โดนกระทำ จนกลายเป็นนิสัยของชายกำยำที่ต้องคอยทำร้ายชายผอมทุกวันและทุกเวลา หนักข้อขึ้น ชายกำยำจึงเริ่มสั่งให้ชายผอมไปหาอาหารมาเลี้ยงตน ส่วนชายกำยำก็นอนรออาหารที่จะมาจากชายผอม
 โดยในแต่ละวันชายทั้งสองนั้น ก็ทำหน้าที่แตกต่ากงันแบบนี้ทุกวัน.....
เทวดาเห็นเข้า จึงจะหาวิธีสอนให้ชายทั้งสองนั้นเห็นความจริงของการอยู่ร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องกดขี่กันในการมีชีวิต จึงเนรมิตรให้ชายทั้งสองนั้นสลับร่างกันในขณะนอนหลับ
ตื่นเช้าขึ้นมาชายผอมที่สลับร่างเป็นชายกำยำก็ตบหัวชายผอมที่สลับร่างจากชายกำยำ โดยทำให้ชายกำยำที่อยู่ในร่างชายผอมนั้นรู้สึกสลดใจ ชายผอมที่อยู่ในร่างชายกำยำ ก็เฝ้ามองดูชายกำยำที่อยู่ในร่างของชายผมนั้น ทำงานแทนตน และนอนอยู่บนที่นอนของชายกำยำ แรกๆนั้นมีความรู้สึกสะใจที่ได้เห็นและเอาคืนในสิ่งที่ได้กระทำกับชายกำยำที่กระทำกับตน...
..แต่พอนานวันเข้า ก็นึกถึงใจของตนที่เคยถูกทำร้าย และโดนตีหัวจนร้องทุกครั้ง ก็เกิดเวทนาตนเอง ...
จึงพาตนเองนั้นไปช่วยเหลือชายผอม อย่างที่เคยเป็นมาตอนแรกที่อยู่ด้วยกัน...ชายกำยำที่อยู่ในร่างชายผอมนั้นเห็นชายผอมในร่างชายกำยำมาช่วยก็รู้สึกสะเทือนจิตใจในสิ่งที่เคยทำมา จึงเกิดความรู้สึกเสียใจ และขออภัยในใจจากสิ่งที่เคยทำกับนายผอม จึงทำให้คิดได้ และอยู่ช่วยกันเลี้ยงชีพ จนมีความสุขตลอดไป...

เทวดาเห็นดังนั้นก็ปิติ และให้ชายทั้งสองนั้น ยังคงอยู่กันต่อไป โดยมิได้สลับร่างคืนให้..

เรื่องนี้สอนให้เห็น สิ่งที่เราเรียกว่าอำนาจหรือสิ่งที่เป็นสิ่งที่เราคิดว่ายิ่งใหญ่และมีมากกว่าคนอื่นจนทำให้ลุ่มหลงในสิ่งที่ตนเป็น จนวันนึงเมื่อโดนกระทำในสิ่งที่ตนกระทำบ้างนั้น จะเป็นเช่นไร เปรียบดังสุภาษิตว่า ใจเค้าใจเรา ถ้าทุกคนคิดได้เช่นนี้ สังคมคงคงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข